โจนส์ ยอมรับ น้ามู คิดหนักหลังเลือกนักเตะตัวจริง นัดชิง ยูโรป้า

คิดหนักแน่นอน!! ฟิล โจนส์ กองหลังพันหน้าของทางทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นได้ออกมาทำการยอมรับแล้วว่า โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ เดอะ สเปเชี่ยล วัน นั้นต้องเจอกับอาการปวดหัวเป็นอย่างมากแน่นอนเพราะว่าเขานั้นต้องตัดสินใจอย่างยากลำบากในการที่จะทำการเลือกนักเตะลงเล่นในรายการ ยูโรปา ลีก กับทางทีม อแจ็กซ์ อันสเตอร์ดัม ในเกมกลางสัปดาห์นี้ ซึ่งทาง โจนส์ นั้นพยายามที่จะต่อสู้อย่างหนักเพื่อที่จะแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงในตำแหน่งกองหลังภายในสโมสรและจากการที่ทีมนั้นขาดนักเตะตัวจริง

มาร์กอส โรโฮ กับ เอริค ไบญี่ ที่ยังไม่สามารถลงเล่นในสนามไปและทาง มูรินโญ่ นั้นก็ยังต้องการอยากจะได้กองหลังตัวจริงสองคนสำหรับ 11 นักเตะคนสำคัญที่รออยู่ด้วย และทางแนวรับเลือดผู้ดีรายนี้ก็ยอมรับว่าทางกุนซือนั้นจะต้องเจอกับเรื่องที่ต้องให้เขาปวดหัวอย่างแน่นอนด้วยเพราะว่าเขานั้นต้องเลือกนักเตะที่ดีที่สุดลงเล่นในเกมนัดนี้และทุกคนนั้นก็ต่างมีผลงานการเล่นที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมากในเวลานี้ด้วย

“ผมนั้นรู้สึกพร้อมเป็นอย่างมากกับการที่จะลงเล่นให้กับทางสโมสรแห่งนี้แน่นอนว่ามันอาจจะใช้เวลาในการปรับตัวเล็กน้อยเพื่อที่จะให้เข้ากับกุนซือรายนี้ให้ได้ เพราะว่าเขานั้นเป็นคนที่ยอดเยี่ยมและเป็นคนที่ทำให้ทีมนั้นมีผลงานที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ด้วย แต่ถึงอย่างไรผมนั้นก็พูดมาเสมอนะว่าไม่ว่าใครก็ตามที่ถูกเลือกตะออกไปลงสนามและทำให้หน้าที่ของตัวเองอย่างสุดความสามารถอีกด้วย เขานั้นได้ทำการเปลี่ยนแปลงนักเตะเพื่อที่จะทำให้ทุกคนนั้นได้พักอย่างเต็มที่และทำให้นักเตะมีความสดพร้อมที่จะลงเล่นในเกมการแข่งขัน ยูโรป้า ลีก ด้วยเขานั้นได้ทำการให้โอกาสกับบางคนได้ลงเล่นในฤดูกาลนี้และผมก็คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมากเพราะว่ามันจะทำให้ทีมนั้นมีความสมดุลเป็นอย่างมากในเกมการแข่งขันกลางสัปดาห์นี้นักเตะที่มีความฟิตพร้อมที่จะลงเล่นในสนามและกระสั่นที่อยากจะถูกเลือกด้วยผมนั้นยอมรับว่าผมนั้นต้องการอยากจะลงเล่นให้กับทางสโมสรแห่งนี้และถ้าหากไม่มีอะไรผิดพลาดผมเองก็หวังเป็นอย่างมากว่าผมนั้นอยากจะได้ลงเล่นในเกมนัดนี้ด้วยถึงแม้ว่าจะต้องแย่งชิงกับใครหลายคนนั้นก็ตาม”

ฮัมซิค สุดดีใจหลังทีมคว้าชัยเหนือ ฟิออ

ดีใจมาก!! มาเร็ค ฮัมซิค กองกลางกัปตันทีม นาโปลี นั้นได้ออกมาแสดงความดีใจกับทีมที่คว้าชัยเหนือทางทีม “ม่วงมหากาฬ” ฟิออเรนติน่า มาได้ 4 – 1 พร้อมสร้างสถิติใหม่ให้กับทางสโมสรด้วยหลังคว้าแต้มได้มากเป็นประวัติศาสตร์ของทางสโมสรรวมถึงทำระตูได้สูงสุดต่อฤดูกาลในเวที เซเรีย อา พร้อมมั่นใจว่าฤดูกาลหน้าทีมจะคว้าแชมป์ได้อย่างแน่นอนด้วย

ซึ่งจากผลการแข่งขันนัดนี้นั้นก็ทำให้ทางทีม นาโปลี เก็บแต้มไปได้ 83 แต้มและก็ถือได้ว่าเป็นสถิติใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วถึงแม้ว่าจะเหลือเกมให้ลงเล่นอีก 1 นัดก็ตามทั้งนี้ทง ฮัมซิค ก็ได้ออกมาแสดงความรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ทีมทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและเขาก็รู้สึกภาคถูมิใจเป็นอย่างมากที่ทีมทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมมากขนาดนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถิติการทำประตูสูงสุดต่อฤดูกาลรวมกันตอนนี้ทำไปได้แล้ว 90 ลูกและผมก็คาดเป็นอย่างมากว่าการทำประตูจะยังไม่หยุดแค่ตรงนี้อย่างแน่นอนด้วยหลังพกเขานั้นยังมีคิวไปเยือนทีม ซามพ์โดเรีย ในฤดูกาลหน้าอีกด้วย

“นี่มันถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่โดดเด่นเป็นอย่างมากและมันก็ยากลำบากสำหรับพวกเราด้วยแต่มันก็น่าเสียดายนิดหน่อยตรงที่พวกเรานั้นคว้าแชมป์ไม่ได้แล้วผมคิดว่าพวกเรานั้นทำแต้มหล่นหายไปเองและพวกเราก็สมควรที่จะได้รับอะไรมากกว่านี้ด้วยแต่นี่ก็คือทีมที่พวกเรานั้นกำลังก่อร่างวางรากฐานออกมาให้ดีมากขึ้นกว่านี้เพื่อที่จะได้มีอนาคตที่ยิ่งใหญ่ในวันข้างหน้าแต่ผมก็คิดว่าตอนนี้พวกเรานั้นก็ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างได้อยู่แล้วเพื่อที่จะลุ้นแขมป์ลีกมาครอบครองให้ได้ด้วยแต่ถึงอย่างไรพวกเรานั้นก็หวังเป็นอย่างากว่าท้ายที่สุดแล้วพวกเรานั้นจะจบในอันดับที่พวกเรานั้นต้องการและพวกเรานั้นก็หวังว่าจะขยับเข้าไปใกล้ตำแหน้งแชมป์ให้ได้มากขึ้นกว่านี้อีกด้วยถึงแม้ว่าจะยากลำบากมากขนาดไหนก็ตามการสร้างสถิติใหม่ตอนนี้นั้นยังไม่จบและผมก็คิดว่าพวกเรานั้นจะทำประตูได้มากกว่านี้อีกด้วยพวกเราไม่เป็นสองรองใครทั้งนั้นและพวกเราก็รวมพลังกันเป็นหนึ่งเดียวพวกเราทุกคนนั้นต่างเฝ้ารออนาคตที่สดใสและพวกเราก็แทบที่จะรอลงเล่นในฤดูกาลใหม่ไม่ไหวแล้วด้วย”

เอร์เรร่า กล่าวยังไม่พร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นกัปตันทีม

ยังไม่อยากได้ตอนนี้!! อันเดร์ เอร์เรร่า กองกลางผึ้งงานของทางทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นได้ได้ออกมาทำการบอกกล่าวแล้วว่าเขานั้นยังไม่พร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นกัปตันทีมในเวลานี้ถึงแม้ว่าใครหลายคนนั้นจะยกให้เขานั้นเป็นคนที่มีความเหมาะสมเป็นอย่างมากก็ตามพร้อมยืนยันว่าทุกอย่างมันจะค่อยๆดีมากขึ้นกว่านี้ด้วย

ซึ่งทาง เอร์เรร่า นั้นได้ทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้และเขานั้นได้รับคะแนนโหวตให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรในฤดูกาลนี้ด้วยและจากการที่อนาคตของทางกัปตันทีมคนปัจจุบันอย่าง เวย์น รูนี่ย์ นั้นยังงไม่ได้บทสรุปนั้นก็ทำให้มีกระแสข่าวออกมาว่าในฤดูกาลหน้าตำแหน่งกัปตันทีมนั้นอาจจะว่างและก็ทำให้มีหลายต่อหลายคนนั้นยืนยันว่าทาง เอร์เรร่า นั้นเป็นคนที่เหมาะสมที่จะเข้ามาสืบทอดเป็นอย่างมากเลยทีเดียวแต่ถึงอย่างไรล่าสุดทางนักเตะรายนี้นั้นก็ได้ออกมาทำการยืนยันแล้วว่าเขานั้นยังไม่ดีพอที่จะรับตำแหน่งนี้ถึงแม้ว่าใครหลายคนนั้นจะต้องการอยากจะให้เขานั้นทำหน้าที่นี้ก็ตาม

“ผมนั้นต้องขอบคุณมากที่หลายคนนั้นทำการตีค่าผมนั้นมากขนาดนั้น แน่นอนว่าผมนั้นไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องที่จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้หรอกนะ การเป็นกัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่เป็นอย่างมากและลองไล่ชื่อกัปตันทีมสโมสรที่เคยมาสิและผมก็รู้สึกเป็นปลื้มเป็นอย่างมากเลยทีเดียวแต่ถึงอย่างไรผมนั้นก็ต้องเคารพในเรื่องของเวลาและจำนวนนัดที่ลงเล่นในสนามด้วย และนอกจากนี้แล้วในสเปนอย่าง เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า นั้นก็ยังก็ยังจะให้คน สเปน เท่านั้นที่เป็นกัปตันทีมเพราะงั้นก็เป็นเหตุผลที่ว่าต้องเป็นคน อังกฤษ ก่อนและผมก็ขอบคุณทุกคนเป็นอย่างมากที่มองว่าผมนั้นเป็นผู้นำแต่ผมก็ไม่คิดว่าถึงมันซักเท่าไหร่เลยนะเพราะว่ากัปตันของสโมสรนั้นต่างเป็นตำนานผมคงต้องใจเย็นๆเอาไว้ก่อนเพราะว่าผมนั้นรู้สึกว่าผมนั้นต้องทำทุกอย่างเพื่อสโมสรตอนนี้พวกเรานั้นจำเป็นที่จะต้องนำชัยชนะมาสู่ทีมให้ได้ก่อนเพราะงั้นผมนั้นก็ต้องใจเย็นให้มากที่สุดแถมตอนนี้พวกเราก็มีนักเตะที่มีประสบการณ์อยู่ในทีมอย่างมากมายดังนั้นแล้วผมก็ขอขอบคุณทุกคนเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยแต่ผมก็ยังไม่ได้คิดถึงมันเลยด้วยนะ”

บิลิชยอมรับเขาสมควรพ่ายแพ้ให้หงส์แดงแล้ว

สู้ไมได้จริงๆ!! สลาเวน บิลิช กุนซือของทางทีม “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด นั้นได้ออกมาทำการยอมรับแล้วว่าทีมของเขาสมควรที่จะพ่ายแพ้คาบ้านให้กับทางทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล 4 – 0 ในเกมการแข่งขันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วพร้อมยืนยันว่าจะพยายามทำผลงานออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยและก็ไม่ได้ล้มบอลเหมือนกับที่ใครพูดด้วย

ซึ่งในเกมสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นทางทีม ลิเวอร์พูล ได้บุกไปออกนำก่อนในครึ่งแรกจากการทำประตูของทาง ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ก่อนที่จะเป็นทาง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่มาทำประตูเพิ่มอีกหนึ่งลูกช่วยทำให้ทีมนั้นออกนำไปแต่ถึงอย่างไรก็ตามประตูที่สามนั้นก็ถูกมองว่าเป็นประตูปัญหาเนื่องจากก่อนจังหวะสวนกลับของทางทีม ลิเวอร์พูล นั้นชัดเจนว่าบอลนั้นได้กระดอนไปโดนแขนของทาง จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม และก็ทำให้พวกเขานั้นได้ประตูโยชน์จากเกมนัดนี้ด้วยแต่ถึงอย่างไรทาง บิลิช ก็ยังยอมรับว่าทีมของเขาสมควรที่จะพ่ายแพ้ในเกมนัดนี้แล้ว

“พวกเรานั้นสามารถที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้แต่ทว่ามันก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของเกมการแข่งขันเท่านั้นด้วยเพราะว่าฟรอ์มการเล่นของทีมในก่อนหน้านี้นั้นก็ไม่ได้ดีเลยผมยอมรับว่าทีมสมควรที่จะพ่ายแพ้ในเกมนัดนี้แล้วและผมก็ต้องบอกว่าผมรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากกับการเล่นของพวกเราและผมก็ต้องการอยกาจะให้พวกเรานั้นเล่นเหมือนที่ทำได้ในเกมเจอกับทางทีม ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส มากกว่าด้วยผมยอมรับว่ามันเป็นเรื่องที่ยากลำบากเป็นอย่างมากแต่ถึงอย่างไรพวกเราก็มีดีพอที่จะทำมันออกมาให้ดีที่สุดตามที่ตั้งเป้าเอาไว้ได้ด้วยผมไม่รู้หรอกว่าสุดท้ายแล้วทุกอย่างมันจะเป็นอย่างไรแต่ผมก็คิดว่าเกมนัดนี้พวกเราไม่สามารถคว้าชัยชนะได้ก็เป็นเรื่องปกติแล้วเพราะว่าพวกเรานั้นเล่นไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งเป้าเอาไว้และพวกเราก็สมควรที่จะทำประตูแรกให้ได้วยซึ่งมันก็จะทำให้เกมนัดนี้เปลี่ยนไปแต่ทว่าพวกเรานั้นก็ไม่สามารถที่จะทำมันได้และมันก็ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่เสียหายเป็นอย่างมากเลยทีเดียวเพราะว่าพวกเรานั้นต้องจบด้วยความพ่ายแพ้แบบนี้มันมีความเอื่อยเล็กร้อยที่ไม่อยากให้เป็นในเกมใหญ่แบบนี้นั้นเราก็จะเป็นแบบนั้นไม่ได้เลย”

บาสตี้ยืนยันย้ายออกจากผีแดงไม่เกี่ยวกับน้ามู

ไม่เกี่ยวกับเขาเลย!! บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กองกลางระดับตำนานนั้นได้ออกมาทำการเปรยแล้วว่าสาเหตุที่ทำให้เขานั้นต้องติดสินใจย้ายออกจากทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่ทาง โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ เดอะ สเปเชี่ยล วัน จับเขานั่งเป็นตัวสำรองเลยแมแต่นิดเดียวพร้อมชี้ว่ามันมีเบื้องหน้าเบื้องหลังมากกว่านั้น

ซึ่งทาง ชไวน์สไตเกอร์ นั้นถูกมองว่าเป็นนักเตะที่แก่เกินไปที่จะลงเล่นในเวที พรีเมียร์ ลีก จนทำให้เขาตกเป็นข่าวพัวพันที่จะย้ายออกจากทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างหนักตั้งแต่ซัมเมอร์ปีที่ผ่านมาแล้วถึงขนาดที่เขานั้นถูกบีบให้ไปลงฝึกซ้อมกับทางทีมชุดเยาวชนแต่ทว่าทางนักเตะเองก็ปฏิเสธที่จะย้ายออกจากสโมสรไปไหนด้วยและนั่นก็ทำให้เขานั้นตกเป็นตัวสำรองมาตลอดภายใต้การทำทีมของทาง มูรินโญ่ จนทำให้หลายต่อหลายคนนั้นทำการต่อว่าทางกุนซือรายนี้ว่าไม่เคารพและให้เกียรติกับทางตัวนักเตะเลยแต่ทว่าล่าสุดทางนักเตะชุดแชมป์โลกก็ได้ออกมาทำการชี้ว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับทางกุนซือรายนี้เลยแต่ทว่ามันมีเบื้องหน้าเบื้องหลังมากกว่านี้และก็เป็นการบีบให้เขานั้นต้องเลือกที่จะย้ายออกจากสโมสรไปเล่นให้กับทางทีม ชิคาโก้ ไฟร์ ในช่วงเดือน มีนาคม ที่ผ่านมา

“ผมเองได้มีโอกาสที่จะทำการพูดคุยกับทาง มูรินโญ่ และเขาก็มีอีกหนึ่งความคิดเห็นที่บอกกับผมและบางทีมันก็อาจจะไม่ได้มาจากการตัดสินใจของเขาด้วยตัวเองด้วยการตัดสินใจได้เป็นเรื่องของความโชคร้ายมากกว่าแต่มันก็มาเกดขึ้นกับผมเขาไมได้เป็นคนชัดใยเรื่องนี้และคุณก็เห็นผมวางตัวยังไงกับทางกุนซือและผมก็แสดงให้เห็นว่าผมนั้นมีความเป็นมืออาชีพมากขนาดไหนด้วยผมคิดว่าทุกอย่างมันน่าจะไม่จบแบบนี้หรอกนะถ้าหากพวกเรานั้นได้ทำการพูดคุยกันโดยที่ไม่มีใครเข้ามาเกี่ยวข้องแต่บางครั้งคุณก็จำเป็นทีร่จะต้องยอมรับมันให้ได้และตอนนี้ผมก็รู้สึกโอเครกับมันเป็นอย่างมากด้วยเพราะว่าการได้ลงซ้อมและเล่นให้กับทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมนั้นคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมและผมก็ได้พยายามมุ่งมั่นอย่างเต็มที่จนถึงวินาทีสุดท้ายกับการลงเล่นให้กับทางสโมสรแห่งนี้แล้วและผมก็ต้องการอยากจะฝึกซ้อมและแสดงให้เห็นว่าผมนั้นคือนักเตะที่ดีที่สุดที่คุณสามารถจะไว้วางใจได้ด้วย”